การบูชาข้าวพระ


 

พระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ปทุมธานี นับว่าเป็นพระที่สร้างกรณีอื้อฉาว  (Scandal) ไว้มากที่สุดรูปหนึ่ง

กรณีอื้อฉาว  (Scandal) ของพระธัมมชโยมักจะมีมาเรื่อยๆ ตลอดเวลาที่บวชเป็นภิกษุ กรณีอื้อฉาวเหล่านั้น เป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้สังคมไทยต้องแตกแยกกัน

ในจำนวนกรณีอื้อฉาวทั้งหมด ที่เป็นความเลวของพระธัมมชโยนั้น  พฤติกรรมอันเป็นสาเหตุของกรณีอื้อฉาว (Scandal) ที่เป็นอันตรายต่อวิชาธรรมกาย และต่อธาตุธรรมภาคขาวมากที่สุดก็คือ “พิธีบูชาข้าวพระ

พิธีบูชาข้าวพระ” เป็นกิจกรรมที่ดึงดูดให้คนเข้าวัดพระธรรมกายได้มากและยั่งยืน การที่วันอาทิตย์ต้นเดือน มีศิษย์วัดพระธรรมกายเข้าวัดมากกว่าอาทิตย์อื่นๆ ก็เพราะการพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์นี้

บุคลากรของวัดพระธรรมกายเชื่อว่า ผู้ที่เข้าร่วมในพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์นี้ จะได้บุญบารมีมากกว่าการทำบุญอันตามปกติ พิธีกรรมนี้ จึงสามารถสร้างเงินสร้างรายได้ให้กับพระธัมมชโยมากขึ้นเป็นทวีคูณ

พิธีบูชาข้าวพระ” ของวัดพระธรรมกาย ถึงแม้จะมีผู้ไม่เห็นด้วยเป็นจำนวนมาก รวมทั้งศิษย์ของหลวงพ่อวัดปากน้ำบ้างกลุ่มเองด้วย เช่น บุคลากรของวัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม เป็นต้น

แต่ ผมยืนยันว่า พิธีกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่พระธัมมชโยไม่มีทาง “เลิกจัด” อย่างเด็ดขาด  ยกเว้นเสียแต่ว่า พระธัมมชโยมีอันถึงคราวมรณภาพไป กิจกรรมดังกล่าวนี้ ก็คงจะจัดต่อไปอีกไม่ได้

เพราะพระธัมมชโยได้ “กันท่า” เอาไว้ก่อนแล้ว ด้วยการโกหกว่า “ตนเองเป็นผู้มีบารมีสูงสุด ในวัดพระธรรมกายไม่มีใคร ที่มีบุญบารมีมากพอ ที่สามารถจะเป็นผู้นำของพิธีนี้ได้อีกแล้ว

อย่างไรก็ดี ในกลุ่มผู้ที่ต่อต้าน  พิธีบูชาข้าวพระ” ของพระธัมมชโยนั้น ที่มีอยู่เป็นจำนวนมากนั้น  หลายๆ คนก็เป็นศิษย์ของพระธัมมชโยมาก่อน

คุณมาลาพร คงเตี้ย อดีตลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย ร้องเรียนกับหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ซึ่งหนังสือพิมพ์ ฉบับวันที่ 19/12/2541 ได้พาดหัวข่าวประเด็นนี้ไว้ว่า “ศิษย์สาว ธรรมกาย แฉวัดสุดเพี้ยน

เรื่องที่เกี่ยวกับการถวายข้าวพระมีเนื้อหาดังนี้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับการถวายข้าวพระนั้นถือว่า เป็นพิธีกรรมขึ้นชื่อลือชาของวัดพระธรรมกาย โดยได้มีการเผยแพร่ทั้งทางหนังสือและเทปของวัด

พระธัมฺมชโยยืนยันว่า การบูชาข้าวพระนั้น เป็นการกลั่นจากของหยาบให้เป็นของละเอียดด้วยธรรมกาย และถวายพระธรรมกายของพระพุทธเจ้า

โดยพระธัมฺมชโยกล่าวว่า เมื่อถึงธรรมกายแล้วก็ถึงพระพุทธเจ้าได้ท่านได้ จับมือถือแขนกันได้ พูดคุยกันได้

พิธีถวายข้าวพระนี้ได้มีการถ่ายทอดเสียงไปทั่วประเทศ อาทิที่ภูเก็ต

นอกจากนั้นยังถ่ายทอดเสียงไปสหรัฐฯ ด้วย ซึ่งทำให้เกิดความแปลกประหลาดใจต่อชาวพุทธมาก เพราะการถวายข้าวพระในประเทศไทยเป็นเวลากลางวัน ทำก่อนเที่ยง

แต่ในสหรัฐฯ เป็นเวลากลางคืน ที่ตามบทบัญญัติของพระพุทธศาสนา ห้ามพระฉันอาหาร หรือห้ามรับถวายอาหารตอนกลางคืน และจะอ้างว่ามีการถวายพระพุทธเข้าที่สหรัฐฯ ได้อย่างไร


ประเด็นในหนังสือพิมพ์ดังกล่าว ไม่ได้เน้นไปว่า ข้าว ปลา อาหาร ทั้งหลาย ใน“พิธีบูชาข้าวพระ” นั้น ถึงพระพุทธองค์หรือไม่  แต่ไปติติงที่ว่า ในอเมริกาเป็นเวลาวิกาล  ซึ่งเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ประเด็นปลีกย่อยเกินไป

น้ำหนักข้อความของคุณมาลาพร คงเตี้ย คงจะมีไม่มากนัก 

ศิษย์เก่าของพระธัมมชโยอีกคู่หนึ่งคือ พระอดิศักดิ์ วิริยธกฺโก อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย และ พระมโน เมตฺตานนฺโท อดีตกรรมการบริหารวัดพระธรรมกาย  ก็มา “แฉสิ้นไส้ ธัมมชโยอวดอ้าง” ดังนี้


เรื่องของการถวายข้าวพระพุทธ เจ้า มีการกล่าวอ้างว่าเป็นการทำบุญแบบสุดๆ คือ ทำบุญเช่นว่านี้เพียงครั้งเดียวเท่ากับทำบุญมามากกว่าร้อยชาติพันชาติเสียอีก

โดยจะนำอาหารมานั่งสมาธิถวาย แล้วให้ญาติโยมจิตนาการเอาเองว่า ยืนถวายและพระพุทธองค์ยืนมือมารับข้าว แต่ในปัจจุบันนี้ ทำได้ง่ายเพียงเอาเงินมาให้แล้วทางวัดจะจัดการให้เอง

ทั้งนี้ เรื่องเดิมมีอยู่ว่า แม่ชีทองสุขได้ใช้ให้แม่ชีจันทร์ ขนนกยูงทำถวายพระพุทธ และบอกว่า เมื่อแม่ชีทองสุขตายไป ก็ขอให้แม่ชีจันทร์ทำแบบนี้ให้

ทางวัดพระธรรมกายก็เอามาดัดแปลงเป็นการเปิดเทปแม่ชีทองสุขนำถวาย โดยผู้ที่สามารถถวายได้มีแต่เฉพาะแม่ชีจันทร์เท่านั้น

ต่อมา ก็ไม่มีการเปิดเทปอีก แต่อุปโลกน์ให้แม่ชีจันทร์เป็นผู้วิเศษสามารถถวายได้คนเดียว





ในส่วนนี้ ในฐานะที่ผม ได้ร่วมการถวายอาหารทะเลกับคุณลุงการุณย์ บุญมานุชเดือนละประมาณ 3 ครั้ง ถวายอาหารปกติ 1 ครั้ง ในวันประชุมประจำเดือนของวิทยากร

และมีความรู้เกี่ยวกับเรื่อง “การบูชาข้าวพระ, “การถวายข้าวพระ, “การถวายอาหารทะเล” มากพอสมควร จึงขอเสนอเป็นความรู้ไว้ก่อนว่า ในทางหลักการ  เราสามารถนำอาหารไปถวายพระพุทธเจ้าในอายตนะนิพพานได้จริง และการทำเช่นนั้น ได้บุญบารมีมหาศาลจริงๆ

ปัญหามันอยู่ที่ว่า “ขั้นตอนปฏิบัติเป็นอย่างไร” และ “มีใครทำได้บ้าง” เท่านั้น

คนที่เชื่อว่า “การถวายอาหารพระพุทธเจ้าทำไม่ได้” ด้วยสาเหตุใดๆ ก็ตาม  ถ้าสนใจก็โปรดฟังหูไว้หูไว้ก่อน  เพราะ ในทางวิชาการนั้น  ไม่จะเป็นไอน์สไตน์ หรือนิวตันเอง เมื่อเสนอทฤษฏีออกมาตอนแรก ก็ถูกคัดค้านและไม่เชื่อเช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ดี  ผมขอวิพากษ์วิจารณ์  พิธีบูชาข้าวพระ”ของพระธัมมชโยไว้คร่าวๆ ก่อน ดังนี้

1) “การบูชาข้าวพระ” ของพระธัมมชโยไม่ถึงพระพุทธเจ้า  มารจึงเอาเป็นรับอาหารนั้นไปแทน  พิธีบูชาข้าวพระ” ของพระธัมมชโยจึงเป็นการบำรุงมารอย่างหนึ่ง

ผู้ที่เข้าไปร่วมพิธีดังกล่าว มีโทษทุกคน ธาตุธรรมฝ่ายขาวถือว่า เป็นสาวกของมาร

2) “การบูชาข้าวพระ” ของพระธัมมชโยทีเดียวทั้งโลก เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง  เพราะ เราจะต้องถวายอาหารก่อนเพลเท่านั้น  พระพุทธเจ้าในอายตนะนิพพานต้องถือกฎตามโลกมนุษย์

3) “การบูชาข้าวพระ” ของแม่ชีจันท์ แม่ชีทองสุก ก็ไม่ถึงพระพุทธเจ้าในนิพพาน มารรับอาหารนั้นไปแทนเช่นเดียวกัน

4) “การบูชาข้าวพระ” “ถ้าทำได้ ทำถึง” ได้บุญบารมีมากมายมหาศาลจริง  แต่ถ้าทำไม่ถึงได้ “โทษ” ก็มากมายมหาศาลเช่นเดียวกัน

5) ในสากลโลกสากลธรรมตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจุจุบัน “ไม่มีใครถวายอาหารถึงพระพุทธเจ้า” และก็ไม่มีใครทำได้มาก่อน เพราะต้องใช้บารมีสูงมาก แต่ในปัจจุบันนี้ คนที่ทำถึง ทำได้มีคนเดียวคือ คุณลุงการุณย์ บุญมานุช

คือ คุณลุงการุณย์ บุญมานุชได้ใช้บารมีการปราบมารนับเป็นสิบปีเพื่อทำเรื่องนี้ และทำได้เพียงคนเดียวเท่านั้น

การถวายอาหารพระพุทธเจ้าจึงเป็น “กรณียกเว้น” ของศาสนาพุทธ  หลักฐาน การพิสูจน์ จะตามมาในบทความชุดนี้ โปรดติดตาม ....



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น