การถวายข้าวพระของคุณลุง


จากบทความ “พิธีบูชาข้าวพระของพระธัมมชโย”  คุณหยุดในหยุด ซึ่งน่าจะเป็นศิษย์ของพระธัมมชโย ได้อธิบายความเป็นมา อันเป็นเหตุเบื้องต้นที่ทำให้พระธัมมชโยทำ พิธีบูชาข้าวพระ ไว้ดังนี้

การบูชาข้าวพระได้ถูกค้นพบวิธีการบูชาโดยคุณยายอาจารย์แม่ชีทองสุก สำแดงปั้นและคุณยายอาจารย์แม่ชีจันทร์  ขนนกยูง  ในสมัยที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำยังมีชีวิตอยู่ครับ

ข้อมูลนี้คลาดเคลื่อนเล็กน้อย เพราะ ผู้ที่ร่วมพิธีกันเป็นประจำจนกระทั่งแม่ชีทองสุกเสียชีวิตก็คือ ยังมี แม่ชีเธียร ธีระสวัสดิ์ และคุณลุงการุณย์ บุญมานุชรวมอยู่ด้วย


ประเด็นนี้ ขอบันทึกไว้เพื่อการถกเถียงกันในภายภาคหน้า ในบ้านธรรมประสิทธิ์ที่คุณไชยบูลย์ สิทธิผลเข้าไปศึกษาวิชาธรรมกายนั้น  ในช่วงนั้น มีแม่ชีเธียร ธีระสวัสดิ์อาศัยอยู่ด้วย และยังมีคุณลุงการุณย์ บุญมานุชไปร่วมปฏิบัติธรรมอยู่เป็นประจำ

ทำไมจึงไม่มีชื่อของแม่ชีเธียร ธีระสวัสดิ์ อยู่ในประวัติของพระธัมมชโย หลักฐานสำคัญยิ่งประการหนึ่งก็คือ บ้านธรรมประสิทธิ์นั้น เมื่อคุณยายจันท์ ย้ายไปวัดพระธรรมกายแล้ว ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “บ้านธีระสวัสดิ์”

ประการสำคัญที่ควรศึกษากันต่อไปก็คือ ในประวัติชีวิตของพระธัมมชโยนั้น  ไม่มีชื่อของคุณลุงการุณย์ บุญมานุชเข้าไปเกี่ยวข้องเลย  ทั้งๆ ที่คุณลุงการุณย์นั้น เป็นศิษย์ของแม่ชีทองสุก และเป็นคนอุปถัมภ์ค้ำชูแม่ชีจันท์ ขนนกยูงมาก่อน

ก่อนที่แม่ชีทองสุกจะเสียชีวิตได้เรียกคุณลุงการุณย์เข้าไปพบ ขณะนั้น คุณลุงยังเป็นครูอยู่ที่โรงเรียนวัดบวรนิเวศ  ซึ่งถือว่า เป็นผู้มีอาชีพข้าราชการที่มั่นคงอยู่ในขณะนั้น

คุณลุงเล่าว่า แม่ชีทองสุกเรียกชื่อคุณลุงเป็น “ครูจรูญ”  เมื่อไปถึงแม่ชีทองสุกก็จับมือคุณลุงไว้แล้วพูดว่า “ครูจรูญ ฉันฝากไอ้จันท์ด้วยนะ”  แล้วแม่ชีทองสุกก็เข้าขั้นโคม่าไปเลย และไปเสียชีวิตในวันรุ่งขึ้น




การตั้งศพนั้น ตั้งที่วัดปากน้ำ แต่ไปเผาที่วัดข้างๆ วัดปากน้ำ  วันตั้งศพของแม่ชีทอกสุกนั้น เป็นวันแรกที่คุณไชยบูลย์ สิทธิผลเข้าวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ

เมื่อแม่ชีทองสุกฝากคุณยายจันท์ไว้กับคุณลุง  คุณลุงจึงต้องหาเงินมาสร้างบ้านให้ ซึ่งก็คือ “บ้านธรรมประสิทธิ์” วิธีการหาเงินก็คือ พิธีปล่อยปลา

มีคนมาชอบปล่อยปลากันมาก  โดยพวกพยาบาล คุณลุงเล่าให้ฟังว่า พยาบาลของโรงพยาบาลหญิงชอบมากที่สุด วิธีการก็คือ คุณลุงจะให้คนไปซื้อปลามา เวลาจะปล่อยก็ให้คุณไชยบูลย์เป็นคนล่ามสายสิญจน์

คุณลุงใช้วิธีนี้ 3 ปี จึงรวบรวบเงินได้ประมาณ 50,000 บาท แล้วนำไปให้รองอาวาสวัดปากน้ำในสมัยนั้น ไปสร้างบ้านธรรมประสิทธิ์ เท่าที่จำได้  ท่านรองเจ้าอาวาสได้หาไม้มาช่วยสร้างบ้านหลังนี้ด้วย

ในประวัติของพระธัมมชโย ผู้เขียนได้บรรยายว่า คุณไชยบูลย์ สุทธิผล กับคุณเผด็จ ผ่องสวัสดิ์ช่วยกันหาเงินสร้าง เป็นการพูดความจริง 0.000001 % เท่านั้น

เพราะ คุณลุงการุณย์เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการหาเงิน  คุณไชยบูลย์กับคุณเผด็จทำหน้าที่ซื้อปลากับขึงสายสิญจน์เท่านั้น

โดยสรุป แม่ชีทองสุก แม่ชีเธียร แม่ชีจันท์ และคุณลุงการุณย์เป็นตัวหลักในการถวายอาหารพระพุทธเจ้ามาโดยตลอด

การที่คุณต้นไม้เมตตาบอกว่า หลวงพ่อวัดปากน้ำห้ามแม่ชีทองสุกและคณะว่า “ไม่ให้ทำอีก” นั้น ก็มีน้ำหนักที่พอเชื่อถือได้ เพราะ หลวงพ่อวัดปากน้ำไม่เคยทำอย่างที่แม่ชีทองสุกทำอยู่

แต่การบูชาข้าวพระพุทธตอนวัดพระทั้งหลายนั้น ผมคิดว่า มีการทำในวัดปากน้ำ

ที่ผมเห็นว่า แม่ชีทองสุกถูกหลวงพ่อวัดปากน้ำห้ามไม่ให้ทำการถวายอาหารแด่พระพุทธเจ้าจริงนั้น ก็เนื่องจากวิชาธรรมกายของแม่ชีทองสุกนั้น ผิดเพี้ยนไปจากของหลวงพ่อวัดปากน้ำมากพอสมควร

คือ ไปพัฒนาแนวทางเป็นของตัวเองมากขึ้น แต่จากการที่อ่านหนังสือกันไม่ออกทั้งแม่ชีทองสุก และแม่ชีจันท์ จึงไม่สามารถตรวจสอบวิชาที่ถูกต้องจากตำราได้

คุณลุงการุณย์ก็วิชาเพี้ยนไปกับเขาด้วย  คือ จะว่าผิด ก็ไม่ผิด จะว่าถูก ก็ไม่ถูก 

แต่โชคดีที่ว่า เมื่อคุณลุงไปดำรงตำแหน่งศึกษาธิการอำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง  คุณลุงได้ไปแก้วิชาที่ผิดเพี้ยนเหล่านั้นกับแม่ชีถนอม อาสไวย์  ซึ่งต้องใช้เวลาแก้ถึง 8 ปี

สำหรับคุณลุงนั้น เมื่อจากคณะผู้ทำพิธีถวายอาหารพระพุทธเจ้ามาแล้ว คุณลุงก็ทำโดยส่วนตัวมาตลอดคือ

  • ทุกวันเสาร์
  • ทุกวัดประชุมประจำเดือน
  • ถวายอาหารทะเลเมื่อมีผู้ผ่านวิชา 18 กาย
อย่างไรก็ดี เมื่อคุณลุงปราบมารได้ถึงปีที่ 11  คุณลุงระลึกถึงการถวายข้าวพระพุทธเจ้าที่ได้ร่วมทำกันมากับแม่ชีทองสุก แม่ชีจันท์ และแม่ชีเธียรว่า บารมีเหล่านั้น ได้เท่าไหร่ และอยู่ที่ไหน

ผลปรากฏออกมาว่า “ไม่ได้บารมีแต่ประการใด เพราะ ทำไม่ถึงพระพุทธองค์ มารจึงเป็นผู้รับประทานเอง เป็นการเพิ่มแรงเพิ่มกำลังให้มาร

ดังนั้น จึงสรุปได้ว่า  การบูชาข้าวพระของพระธัมมชโย ไม่ว่าจะใช้วัสดุอุปกรณ์ที่เลิศหรูดีเลิศอย่างไร ก็ไม่ถึงพระพุทธองค์

เนื่องจาก การบูชาข้าวพระในรุ่นของแม่ชีทองสุกกับลูกศิษย์ ข้าว ปลา อาหารก็ยังไม่ถึงพระพุทธองค์ พระธัมมชโยซึ่ง ไม่เห็นดวงธรรม ไม่ผ่านวิชา 18 กาย จะทำถึงได้อย่างไร


นอกจากนั้นแล้ว ในปัจจุบันนี้ ธาตุธรรมยังถือว่า การกระทำของพระธัมมชโยและพวกพ้องเป็นการกระทำที่ทำให้ “มารมีกำลัง”มากขึ้น ใครที่ร่วมทำกับพระธัมมชโยก็ถือว่าเป็นพวกเดียวกับมาร

พวกนี้ตายไปแล้ว อบายภูมิอย่างเดียวเท่านั้น

จึงน่าสมเพชเวทนาสาวกของพระธัมมชโยเป็นยิ่งนัก  เสียเงิน เสียทอง เสียเวลา แล้วยังต้องมารับโทษจากธาตุธรรมฝ่ายขาวด้วย เหตุจากเพราะ “เชื่อผ้าเหลือง” เท่านั้น 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น