การถวายอาหารทะเล


ขอนำคำถามที่เป็นเหตุ ทำให้ต้องเขียนบทความชุดนี้ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ดังนี้

13. เรื่องการบูชาข้าวพระ โดยพระอาจารย์ในขณะที่กำลังเทศน์เรื่อง (อะไร จำไม่ได้) ก็เสริมเรื่องบูชาข้าวพระว่า เป็นการนำอาหารไปถวายพระพุทธเจ้าโดยตรงในอายตนะนิพพาน จะได้บุญมาก

โดยผู้ค้นพบวิธีการบูชาข้าวพระคือคุณยายทองสุข สำแดงปั้น (ถ้าจำไม่ผิด) และคุณยายแม่ชีจันทร์  โดยเป็นคำสั่งของหลวงพ่อวัดปากน้ำว่า ให้ค้นไปดูว่า บุญใดจะทำให้ได้ถึงที่สุดแห่งธรรมเร็วๆ ก็ไปพบวิธีนี้


ตรงนี้ผมก็แอบถามพระอาจารย์ (พี่เลี้ยง) อีกทีว่า ต้องเป็นอาหารทะเลหรือไม่ ท่านก็ว่า ไม่จำเป็น ตรงนี้ผมอยากให้ ดร.มนัส ช่วยเสริมหน่อยว่า ทำไมต้องบูชาข้าวพระ แล้วทำไมต้องเป็นอาหารทะเลเท่านั้น

จากบทความที่ผ่านมานั้น ผมได้อธิบายไปแล้วว่า อาหารที่คุณลุงนำไปถวายพระพุทธเจ้านั้น มีหลากหลาย ก็เป็นอาหารตามปกตินั่นแหละ และคุณลุงจะทำการถวายอาหารพระพุทธเจ้าใน 3 วาระ คือ

  • - วันเสาร์เป็นปกติทุกเสาร์ ทำเป็นการส่วนตัวที่บ้านของคุณลุง
  • - วันประชุมประจำเดือนของวิทยากร ที่มารายงานว่า ไปสอนที่ไหนมาบ้าง
  • - อาหารทะเล เป็นครั้งคราวไป เมื่อมีผู้ผ่านวิชา 18 กาย
โดยปกติในวันเสาร์ทุกสัปดาห์ คุณลุงก็ถวายอาหารพระพุทธเจ้าเป็นปกติธรรมดา อาหารก็เป็นอาหารธรรมดา  คุณลุงรับประทานอาหารอย่างไร คุณลุงก็ถวายอาหารนั้นๆ ก่อน

ในวันประชุมประจำเดือนของวิทยากร ก็มีการถวายอาหารให้กับพระพุทธเจ้าก่อนทุกครั้ง เมื่อถวายอาหารเสร็จแล้ว วิทยากรและผู้ร่วมประชุม จึงจะรับประทานอาหารเหล่านั้น  อาหารก็เป็นอาหารปรกติธรรมดา

สำหรับ อาหารทะเลเป็นครั้งคราวไป เมื่อมีผู้ผ่านวิชา 18 กาย  พิธีนี้ นานๆ มีครั้งหนึ่ง เพราะ วิทยากรของคุณลุง หลายๆ ท่าน ไม่ได้ผ่านวิชา 18 กายแบบ “รู้”, “เห็น” และ “เป็น” ธรรมกาย ซึ่งต้องมาถวายอาหารทะเล

แต่วิทยากรจะ “รู้” วิชาธรรมกายโดยการสอบ  เมื่อสอบผ่านแล้ว ก็สามารถเป็นวิทยากรได้ สามารรถไปสอนให้คนเห็นดวงธรรมและกายธรรมได้

ความเป็นมาของการถวายอาหารทะเลยุคใหม่

ตั้งแต่ผมมาเป็นวิทยากรของคุณลุง ผมไม่เคยไปร่วมพิธีการถวายอาหารทะเลในกรณีที่มีผู้ผ่านวิชา 18 กายเลย (กรณีหมายถึงเฉพาะวิทยากรเท่านั้น)  เคยแต่ได้ยินจากวิทยากรที่เก่ากว่าเล่าให้ฟัง

ต่อมาในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา ปี พ.ศ. 2549 ผมไปเป็นที่ปรึกษาของผู้สมัครท่านหนึ่ง ผมจึงได้นำรูปของผู้สมัครท่านนี้ ไปให้คุณลุงตรวจดู เพื่อให้แนวทางช่วยเหลือ คุณลุงตรวจสอบแล้วบอกว่า “ไม่ฉลาดในการหาเสียง

ผมก็เลยมาบอกกับผู้สมัครว่า ถ้ายังไงไปหาคุณลุงเพื่อสร้างบารมีเพิ่มดีกว่า  ผมจึงพาท่านผู้สมัครและผู้ติดตามไปพบคุณลุง

เมื่อไปพบคุณลุงแล้ว ก็จึงมีการไป “ถวายอาหารทะเล” เป็นกรณีพิเศษขึ้น ในการไป “ถวายอาหารทะเล” ครั้งนั้น ผมได้บอกวิทยากรหลายคนให้ไปร่วมพิธีด้วยกัน


วิทยากร 2-3 คนเห็นดีเห็นงามในพิธีครั้งนี้ จึงได้ขอให้คุณลุงจัดพิธี “ถวายอาหารทะเล” ขึ้นไปตามโอกาสต่างๆ เช่น สอนนักเรียนครบกี่ครั้ง  บนต้นปราบแล้วแก้บนโดยการ “ถวายอาหารทะเล” ฯลฯ

พิธีกรรม “ถวายอาหารทะเล” จึงเป็นที่นิยมขึ้นมาของเหล่าวิทยากรทั้งหลาย

จนในบัดนี้ ในแต่ละเดือนจะมี 3 ถวายอาหารทะเล 3 ครั้ง ซึ่งการนัดหมายต้องรอกำหนดการประชุมจากคุณลุงเสียก่อนว่า คุณลุงจะจัดประชุมประจำเดือนวันไหน 

การประชุมอาหารทะเลทุกครั้ง  คุณลุงมีคำสั่งเด็ดขาดอยู่คำสั่งหนึ่งคือ “ดร. มนัส โกมลฑา ห้ามขาด ต้องมาทุกครั้ง”  ผมถึงบอกได้ว่า ผมเป็นผู้เชี่ยวชาญในการถวายอาหารทะเล

ทำไมจะต้องเป็นอาหารทะเลด้วย

ในการเผยแพร่วิชาธรรมกายและการปราบมารของคุณลุงการุณย์ บุญมานุชนั้น ต้องปรึกษากับธาตุธรรมตลอดเวลา ทุกวัน เช่น

  • 1) ต้นนิพพานเป็น
  • 2) ต้นใหญ่
  • 3) หลวงพ่อวัดปากน้ำ
  • 4) พระพุทธองค์
  • 5) จักรพรรดิต้นปราบ ตรีภพ หยกชมพู ต้นปราบน้อย ต้นปราบจักรีฤทธิ์
  • ฯลฯ
ในวันก่อนที่จะมีพิธี “ถวายอาหารทะเล” ธาตุธรรมมักจะถามคุณลุงว่า “พรุ่งนี้มีอาหารทะเลหรือ” ทำนองนี้ เป็นประจำ

คุณลุงจึงสังเกตว่า ธาตุธรรมท่านโปรดอาหารทะเลมากกว่าอาหารที่ถวายในการประชุมประจำเดือน 

จากการสอบถามของวิทยากรที่ไปทูลถาม “พระพุทธเจ้า” พระพุทธองค์ก็ทรงตอบมาเช่นนั้น  พิธีกรรม “ถวายอาหารทะเล” จึงเป็นพิธีกรรมที่จัดขึ้นเดือนละ 3 ครั้ง ดังนี้แล...



2 ความคิดเห็น:

  1. พระพุทธเจ้า ท่านจะรับ ..ฤ ? รับไป ทำไม ? :::::::: เปนเรื่อง JOKE ตลก แท้ ๆ .... ฮา...
    ไม่ไหว ! ! :::::::: 555 5.......... โปรด อาหารทะเล ... 5 5 ..... เลอะ เหลวไหล ...

    ใช่ ไหม ? .... จักรพงศ์

    ตอบลบ
  2. คุณเคยไปอายตนะนิพพานและทูลถามพระพุทธเจ้ามาแล้วหรือไง หรือว่า ฟังเขาเล่ามา อ่านมา แล้วเสือกเชื่อไปแบบของคุณ

    ตอบลบ