พิธีบูชาข้าวพระของพระธัมมชโย


ผมได้กล่าวมาแล้วว่า การบูชาข้าวพระพระธัมมชโยที่ก่อให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างเสียหายไปจนถึงวิชาธรรมกายนั้น  คนไทยทั่วทุกภาคส่วนก็ปฏิบัติกันเป็นปรกติมานานแล้ว  เราจะเรียกกันว่า “การถวายข้าวพระพุทธ

ความเป็นมาของเรื่องการบูชาข้าวพระของพระธัมมชโย มีผู้เขียนไว้แล้ว ในการเสวนากันในเว็บบอร์ดของวัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม เรื่อง “การบูชาข้าวพระ”  โดยมีคนเข้าไปตั้งกระทู้ ดังนี้

เห็นทางช่อง DMC ของวัดธรรมกาย มี Spot บูชาข้าวพระโดยอาศัยวิชชาธรรมกายไปถวายอาหารทิพย์...อะไรประมาณนั้น โดยกล่าวว่า มีมาแต่สมัยหลวงพ่อสด  (28 กุมภาพันธ์ 2011)

1. สงสัยว่าคืออะไร ได้ประโยชน์อันใด
2. ที่วัดหลวงพ่อสด มีพิธีนี้ไหมครับ

คนใช้นามแฝงว่า “หยุดในหยุด” เป็นผู้มาตอบคนแรก ตอบอย่างยาวมาเลย ดังนี้

การบูชาข้าวพระได้ถูกค้นพบวิธีการบูชาโดยคุณยายอาจารย์แม่ชีทองสุก  สำแดงปั้นและคุณยายอาจารย์แม่ชีจันทร์  ขนนกยูง  ในสมัยที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำยังมีชีวิตอยู่ครับ

และได้กระทำสืบกันมา จนถึงบ้านธรรมะประสิทธิ์ (ที่ตั้งอยู่ในวัดปากน้ำ) และเมื่อคุณยายอาจารย์แม่ชีจันทร์ ขนนกยูงได้มาสร้างวัดพระธรรมกาย ก็ได้นำสาธุชนที่มาวัด บูชาข้าวพระทุกวันอาทิตย์ต้นเดือนครับ

โดยการบูชาข้าวพระนั้น   คนที่มีหน้าที่จะจัดหา จัดเตรียมอาหาร ผลไม้  ดอกไม้มาจัดอย่างละเอียดประณีตมากที่สุด  เพื่อเตรียมบูชาแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอายตนะนิพพาน

เพราะการบูชาบุคคลที่ควรบูชา ควรจัดเตรียมของที่จะบูชาอย่างละเอียดประณีตเสมอ  โดยการบูชาในยุคแรกจะมีคุณยายอาจารย์แม่ชีทองสุก และคุณยายอาจารย์แม่ชีจันทร์ ประกอบธาตุธรรมกลั่นอาหาร หวานคาว ผลไม้ ดอกไม้ไว้ที่กลางกายของท่านให้ใสละเอียด แล้วน้อมนำไปบูชาแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอายตะนิพพาน 

แต่พระพุทธเจ้าทั้งหลาย ท่านไม่ได้ขบฉันอาหารนะครับ เหมือนๆ กับเรา นำดอกไม้บูชาพระ เราก็ได้บุญ  พระท่านก็ไม่ได้ขบฉันดอกไม้นั้นๆ โดยคุณยายอาจารย์แม่ชีทองสุกและคุณยายอาจารย์จันทร์ ท่านบอกว่าการบูชาข้าวพระเป็นทางมาแห่งมหากุศลใหญ่ครับ

ส่วนปัจจุบันผู้ที่รับช่วงบูชาข้าวพระต่อจากคุณยายอาจารย์แม่ชีจันทร์ ขนนกยูงก็คือพระราชภาวนาวิสุทธิ์ หรือหลวงพ่อธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ครับ

คำตอบของคุณหยุดในหยุด นั้น ดูราวกับว่า รู้จริงและอยู่ในพิธีกรรมการบูชาข้าวพระมาแล้ว แต่คนอ่านก็ต้องงงงวยกับข้อความของคุณหยุดในหยุดที่ว่า “แต่พระพุทธเจ้าทั้งหลาย ท่านไม่ได้ขบฉันอาหารนะครับ” แต่เหมือนกับการบูชาดอกไม้

โดยปกติแล้ว ถ้าคนทำเขาเชื่อว่า การกระทำดังกล่าว ทำแล้วไม่สำเร็จ แล้วจะทำไปทำไม  คำตอบของคุณหยุดในหยุดนั้น เป็นคำตอบของคนที่ไม่รู้จริง  เริ่มสับสนกับความคิดของตนเอง เป็นคำตอบที่พยายามประนีประนอมกับคนที่เห็นขัดแย้ง เท่านั้น

คุณ “ต้นไม้เมตตา” ไม่เห็นด้วยกับคุณ “หยุดในหยุด” ก็โต้แย้งมาอย่างยาวเหมือนกัน ดังนี้

การบูชาข้าวพระด้วยการกลั่นวัตถุเป็นทิพย์ไปถวายในอายตนะนิพพานนั้น ทำไม่ได้ (มีแต่สายแม่ชีทองสุกเท่านั้น ที่เข้าใจว่าทำได้)

สำหรับสายพระ ครูอาจารย์ท่านกล่าวไว้ว่า แม่ชีทองสุก สำแดงปั้น ได้ทำพิธีนี้ ด้วยเข้าใจว่าทำได้ เมื่อเรื่องไปถึงหลวงปู่สด ท่านก็ได้ห้ามว่า "ไม่ให้ทำอีก"  นี้เป็นคำกล่าวมาจากพระสู่พระผู้ใกล้ชิด

เหตุผลเพราะว่า พระนิพพานนั้นเป็น อสังขตธาตุ อสังขตธรรม ไม่ต้องอาศัยการปรุงแต่ง อาหาร โอชารส เครื่องแต่งเครื่องทรงใดๆ ทั้งสิ้น เป็นโลกุตตระแล้ว ในโลกุตตระไม่มีอะไรๆ ที่เป็นโลกิยะทุกประการ นี้เป็นหลักพระธรรมวินัย

ถาม แล้วทำไมเข้าใจว่าทำได้?

ตอบ เพราะเวลาเจริญวิชชานั้น ศูนย์กลางตรงกันหมดถึงอายตนะนิพพาน เป็นภาพเชิงซ้อนจากโลกิยะ ไปซ้อนเอาตรงกันศูนย์โลกุตตระ ก็เลยแลเห็นว่าทำได้ ความจริงแล้วทำไม่ได้เพราะผิดหลักธรรม

หากจะทำได้จริงๆ อย่างมากคือการกลั่นให้วัตถุเป็นของทิพย์ด้วยอำนาจอิทธิวิธี อย่างมากไปได้แค่ชั้นพรหม ก็สุดๆ แล้ว สูงกว่านั้น ทำไม่ได้ ผิดหลักธรรม

สายพระได้ชี้แจงเรื่องเหล่านี้มานานตลอดเวลา ตั้งแต่สมัยหลวงปู่สดยังมีชีวิตอยู่ แต่ยังมีผู้เข้าใจว่าทำได้อยู่ เป็นศิษย์สายแม่ชีทองสุกเท่านั้น ครูตรีธา ครูฉลวย แม่ชีถนอม ฯลฯ ไม่มีใครเขาทำกัน

คุณต้นไม้เมตตานี่ สามารถฟันธงไปเลยว่า “การบูชาข้าวพระด้วยการกลั่นวัตถุเป็นทิพย์ไปถวายในอายตนะนิพพานนั้น ทำไม่ได้” ใส่วงเล็บเสียด้วยว่า “(มีแต่สายแม่ชีทองสุกเท่านั้นที่เข้าใจว่าทำได้)

อันที่จริงแล้ว  การบูชาข้าวพระหรือการถวายข้าวพระพุทธนั้น ทำได้ เพราะ มีผู้ทำมานานแล้ว ที่ผมเขียนมาในบทความก่อหน้านี้ ก็พิสูจน์แล้วว่า “ทำอยู่ทั่วประเทศ

ปัญหามันอยู่ว่า “ทำถึงหรือไม่” เท่านั้น

คุณต้นไม้เมตตาได้อธิบายด้วยว่า การที่คณะแม่ชีทองสุกเข้าใจผิดไปนั้น เนื่องจาก “เวลาเจริญวิชชานั้น ศูนย์กลางตรงกันหมดถึงอายตนะนิพพาน เป็นภาพเชิงซ้อนจากโลกิยะ ไปซ้อนเอาตรงกันศูนย์โลกุตตระ ก็เลยแลเห็นว่าทำได้ ความจริงแล้วทำไม่ได้เพราะผิดหลักธรรม

ปัญหาที่เกิดจากคำอธิบายของคุณต้นไม้เมตตาก็คือ ภาพเชิงซ้อนจากโลกิยะไปตรงศูนย์โลกุตระเป็นอย่างไร  คุณต้นไม้เมตตา เข้าใจที่เขียนมาหรือเปล่า

คำว่า “ภาพเชิงซ้อน” ยังไม่มีใครพบเห็นในตำราของวิชาธรรมกายเลย  แล้วที่คุณต้นไม้เมตตาบอกว่า “ผิดหลักธรรม”  ผมก็ยังสงสัยว่า มันผิดหลักธรรมอะไร...

อย่างไรก็ดี มีคนเข้ามาถามต่อในการเสวนาครั้งนี้ว่า

เท่าที่ผมเห็นมา ลูกศิษย์แม่ชีทองสุก ที่มีการบูชาข้าวพระ นอกจากสายแม่ชีจันทร์แล้ว ทราบว่าของสาย อ.การุณย์ ก็มีการบูชาข้าวพระเช่นกัน

เห็น อ.การุณย์ท่านเคยขยายความเรื่องการบูชาข้าวพระในหนังสือ "ปราบมาร" ด้วย จำไม่ได้ว่าเล่มไหน

รอลูกศิษย์สาย อ.การุณย์ มาขยายความส่วนนี้ครับ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น